Lifestyle โลกที่ต้องเอาตัวรอด

โลกที่ต้องเอาตัวรอด

     เมื่อผมตื่นขึ้นจากที่นอน ความคิดก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัวสมองว่า รู้สึกหิวแล้ว นี่ก็เป็นชีวิตประจำวันของทุกชีวิตที่ต้องดิ้นรนเพื่อปากท้อง สำหรับการทำมาหากิน ทุกชีวิตย่อมมีความทุกข์อยู่เสมอ  ผมเองก็เป็นหนึ่งในอีก แสนล้านชีวิตในจักรวาลนี้ มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็แค่นั้นจริงๆ...

   พ่อผมได้สอนไว้ว่า บนโลกใบนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับคนอ่อนแอ มันก็เป็นความจริงอย่างที่พ่อผมบอก...ในเมื่อคนเรานั้นมีความอ่อนแอมักจะต้องถูกแย่ง ถูกเขี่ยไป ตามกาลเวลา ตามยุคสมัย ตามวัยของมันเอง มันก็เป็นแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ฉะนั้นต้องอดทนต่อสิ่งที่มาในชีวิตเรา ร่างกายเรา และจิตใจของเรา แล้วมันก็ผ่านไปอยู่อย่างงั้นจนตายโดยที่เราไม่รู้เรื่องว่าเราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร มันก็ทำให้เรานั้นทุกข์บ้าง สุขบ้าง กับสิ่งที่มากระทบเราเอง จงอดทนต่อสิ่งนั้นและเดินทางเพื่อเอาตัวรอดจากคำสอนของพระพุทธเจ้า

   ในทางกลับกันจากที่เราได้มีความทุกข์อยู่ในใจอยู่นั้นก็ได้มีคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นเองที่ได้เห็นความเป็นจริงของโลก ความจริงนี้ก็หมายถึงสิ่งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สิ่งของ สัตว์ คน แก้วแหวนเงินทองแม้กระทั้งตัวเองเอง จิตใจเราเอง  ทุกๆอย่าง มันไม่ใช่ของเราเลยแม้แต่อย่างเดียว ฉะนั้นให้เราพิจารณาให้ดีว่า สิ่งทั้งหลายก็ดี ร่างกายเราก็ดี มันสะอาดไหม มันน่ารักหรือเปล่า มันเป็นอย่างไง จนกระทั้งรู้ความจริงว่า มันเห็นแต่ความทุกข์ทั้งนั้น การที่เราจะต้องเอาตัวรอดนั้นก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

   

   อย่างไรก็ดี อย่างน้อยๆผมเองก็เชื่อมั่นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นทางที่สุดของชีวิต ที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหมด นี่ก็คือการเอาตัวรอดจากโลกใบนี้...แล้วพระพุทธเจ้าให้เรานึกอยู่เสมอว่าความตายนั้นรอเราอยู่ทุกลมหายใจ ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่งเราก็จะต้องตาย ดังนั้นให้ใช้ชีวิตในแต่ละช่วงให้มีค่าโดยการ ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา และให้นึกถึงความตายอยู่ทุกลมหายใจ ที่สำคัญคือเราจะต้องเชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกอยู่ในใจ  ดังนั้นก็พากันปฏิบัติค่อยๆศึกษา และน้อมนำจิตใจให้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเถิด