Lifestyle ความคิด..ไม่มีวันสิ้นสุด
ความคิด..ไม่มีวันสิ้นสุด
สวัสดีครับ ผมแจ็คคนเดิมอีกแล้ว และวันนี้ผมได้นำใบลาไปยื่นส่ง เพื่อจะกลับบ้านวันพรุ้งนี้ ในแต่ละวันในชีวิตคนเราก็เพียงแค่หาเช้ากินค่ำ ใช้ชีวิตไปวันๆอยู่บนโลกให้รอดไปจนกว่าจะตาย...หลายคนคงตั้งคำถามกับชีวิตว่า "เราเกิดมาทำไม" มันเป็นคำถามที่ไม่มีวันหมดสิ้น เพียงแค่คิดในหัวสมองของเราตอนนี้ มันมีเยอะมากกับคำถามสั้นๆว่า"เราเกิดมาทำไม" ฉะนั้นแล้วความคิดมันมีวันจะจบสิ้นได้เลย แม้กระทั้งขณะที่เราทำงานอยู่ เราก็ต้องคิด คิดทั้งวันจนหลับไป...พอตื่นขึ้นมาก็คิดอีก...จนกระทั้งตายจากโลกนี้ไป...ความคิดนี้ก็ยังเป็นปริศนาของมนุษย์เราไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ต้นตอของมันเลย..เกริ่นมาอย่างงี้แล้วคงจะเข้าใจกันนะครับ
การหยุดความคิด
วิธีการหยุด แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่ยังไม่ฝึกมาก่อน ซึ่งมีอยู่วิธีเดียวคือการนั้นทำสมาธิให้เกิดความสงบครับ นี่จึงเป็นการระงับความคิดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่แล้วความคิดนั้นก็จะผุดขึ้นมาอีกจน มันไม่มีที่สิ้นสุด...แต่ก็มีการหยุดความคิดอย่างถาวรได้เช่นกัน ด้วยการ "รู้จักความคิด,รู้จักระงับความคิด" ซึ่งการรู้ความคิดนั้นหมายความว่า รู้เพื่อวางความคิดเหล่านั้น วางในตัวตนว่าความคิดนั้นไม่มีตัวตน จากแต่ก่อนมันเคยจมยึดติดอยู่กับความคิด ให้เฝ้าดูรู้ความคิดนั้นว่า ความคิดทั้งหลายไม่เที่ยง ไม่แน่นอน จนกระทั้งชำนาญและเบื่อหนายกับความคิดทั้งหลาย และแล้วความคิดเหล่านั้นก็จะถูกรู้ด้วยปัญญาว่า ความคิดไม่ใช่ตัวตน เพราะมันคือ นามธรรมครับ
นามธรรมคือสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ของเรา ของเขา ใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นความคิดที่อยู่ในจิตใจเรานั้นมันคือความปรุงแต่งขึ้นมาเองในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความคิดสุข คิดทุกข์ หรือบางทีก็ไม่คิดเลย ก็ให้รู้ไปเฉยๆ ไม่นานมันก็จะหายไปเอง จนกระทั้งนิ่งสงบ จนกระทั้งจิตใจเองก็ยังเป็นเพียงแค่นามธรรม ไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรา เขา ใดๆ ทั้งนั้น แล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป เพื่อเป็นการพักผ่อน ให้ค่อยๆ เรียนรู้ไปแบบนิ่งๆจนกระทั้งชำนาญและมันจะปล่อยวางความคิดเองโดยที่ไม่ต้องไปฝืนบังคับอะไรใดๆเลย มันจะค่อยๆ ละ ไม่แสวงหาให้เกิดทุกข์ สุข เฉยๆ อีกต่อไป ให้ลองฝึกกันดู หากไม่เข้าใจหรือข้าพเจ้าอธิบายพลาดแต่ประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ฉะนั้นให้ดำเดินตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเถิด
สวัสดีครับ ผมแจ็คคนเดิมอีกแล้ว และวันนี้ผมได้นำใบลาไปยื่นส่ง เพื่อจะกลับบ้านวันพรุ้งนี้ ในแต่ละวันในชีวิตคนเราก็เพียงแค่หาเช้ากินค่ำ ใช้ชีวิตไปวันๆอยู่บนโลกให้รอดไปจนกว่าจะตาย...หลายคนคงตั้งคำถามกับชีวิตว่า "เราเกิดมาทำไม" มันเป็นคำถามที่ไม่มีวันหมดสิ้น เพียงแค่คิดในหัวสมองของเราตอนนี้ มันมีเยอะมากกับคำถามสั้นๆว่า"เราเกิดมาทำไม" ฉะนั้นแล้วความคิดมันมีวันจะจบสิ้นได้เลย แม้กระทั้งขณะที่เราทำงานอยู่ เราก็ต้องคิด คิดทั้งวันจนหลับไป...พอตื่นขึ้นมาก็คิดอีก...จนกระทั้งตายจากโลกนี้ไป...ความคิดนี้ก็ยังเป็นปริศนาของมนุษย์เราไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ต้นตอของมันเลย..เกริ่นมาอย่างงี้แล้วคงจะเข้าใจกันนะครับ
การหยุดความคิด
วิธีการหยุด แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้ที่ยังไม่ฝึกมาก่อน ซึ่งมีอยู่วิธีเดียวคือการนั้นทำสมาธิให้เกิดความสงบครับ นี่จึงเป็นการระงับความคิดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่แล้วความคิดนั้นก็จะผุดขึ้นมาอีกจน มันไม่มีที่สิ้นสุด...แต่ก็มีการหยุดความคิดอย่างถาวรได้เช่นกัน ด้วยการ "รู้จักความคิด,รู้จักระงับความคิด" ซึ่งการรู้ความคิดนั้นหมายความว่า รู้เพื่อวางความคิดเหล่านั้น วางในตัวตนว่าความคิดนั้นไม่มีตัวตน จากแต่ก่อนมันเคยจมยึดติดอยู่กับความคิด ให้เฝ้าดูรู้ความคิดนั้นว่า ความคิดทั้งหลายไม่เที่ยง ไม่แน่นอน จนกระทั้งชำนาญและเบื่อหนายกับความคิดทั้งหลาย และแล้วความคิดเหล่านั้นก็จะถูกรู้ด้วยปัญญาว่า ความคิดไม่ใช่ตัวตน เพราะมันคือ นามธรรมครับ
นามธรรมคือสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ของเรา ของเขา ใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นความคิดที่อยู่ในจิตใจเรานั้นมันคือความปรุงแต่งขึ้นมาเองในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความคิดสุข คิดทุกข์ หรือบางทีก็ไม่คิดเลย ก็ให้รู้ไปเฉยๆ ไม่นานมันก็จะหายไปเอง จนกระทั้งนิ่งสงบ จนกระทั้งจิตใจเองก็ยังเป็นเพียงแค่นามธรรม ไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรา เขา ใดๆ ทั้งนั้น แล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป เพื่อเป็นการพักผ่อน ให้ค่อยๆ เรียนรู้ไปแบบนิ่งๆจนกระทั้งชำนาญและมันจะปล่อยวางความคิดเองโดยที่ไม่ต้องไปฝืนบังคับอะไรใดๆเลย มันจะค่อยๆ ละ ไม่แสวงหาให้เกิดทุกข์ สุข เฉยๆ อีกต่อไป ให้ลองฝึกกันดู หากไม่เข้าใจหรือข้าพเจ้าอธิบายพลาดแต่ประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ฉะนั้นให้ดำเดินตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเถิด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น