Lifestyle อารยธรรมและความรู้จากนามธรรม ตอนที่ 1
อารยธรรม และความรู้จากนามธรรม
แน่นอนครับสำหรับอารยธรรม ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ซึ่งมันเนื่องมาจากสิ่งปลูกสร้างและการเอาตัวรอดจากภัยต่างๆ ทุกยุคทุกสมัยแล้วที่มนุษย์เราได้มีเผ่าพันธุ์ต่างๆกัน แสดงให้เห็นว่าการเดินทางของเขายังไม่จบสิ้น รวมไปถึงยุคสมัยนี้อย่างเราด้วย แต่สิ่งที่เหมือนกันทั้งหมดคือ กาย ใจ นี้เอง!!
จากทฤษฎีแห่งการเรียนรู้นั้น...มันไม่มีวันจบได้เลย กระทั้งยุคๆใหม่ๆในสมัยนี้ ความเข้าใจทางวัตถุมากขึ้น แต่จิตใจคืออะไร?? ซึ่งมันกลายเป็นความเชื่อในทางด้านวัตถุ แล้วหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด อารยธรรมก็เช่นเดียวกันซึ่งมันต่างจากวัตถุอย่างมาก เพราะมันมาจากความเชื่อ ซึ่งความเชื่อนี้มันสามารถ เบนวัฒนธรรมในตำราได้ แล้วต้องมาแก้ไขไม่จบสิ้นเปรียบเสมือนกับ ลบ แล้ว เขียนประวัติศาตร์ใหม่เรื่อยๆกันไป
ความเชื่อ...ของอารยธรรม
ความเชื่อจึงเป็นสิ่งเริ่มแรก..ที่จะทำให้เป็นรูปเป็นร่างได้จากอารยธรรมต่างๆ ซึ่งมันจะต้องเห็นและสัมผัสได้ แล้วเกิดความเชื่ออย่างปักใจ ความเชื่อตั้งแต่ดั่งเดิมย่อมเป็นการสืบต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน แล้วให้ปฏิบัติตามที่เชื่อๆกันมา ไม่ว่าจะผิด หรือ ถูก หากเป็นในแนวทางความเชื่อจนปักใจแล้วก็จะยากในการรับสิ่งใหม่ๆเข้าไป
ต้องมีผู้นำ
ทุกอย่างย่อมมีผู้นำ ผู้คุม และ การจัดระเบียบเพื่อเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อสังคมในสมัยนั้น ....แม้กระทั้งสมัยนี้เองก็ยังเป็นเช่นเดียวกัน ถ้าหากไม่มีผู้นำทุกอย่างก็ไม่สามารถเริ่มทำงานต่อไปได้ รวมถึงผู้ที่เป็นบริวาร ต้องมั่นใจในความเป็นอยู่ว่าจะพอเลี้ยงปากท้องของประชาชนได้หรือเปล่า
กล่าวถึงคนสำคัญ
ทุกประวัติศาสตร์ที่มีมาดั่งเดิมของความสำคัญต่างๆ ย่อมมีการบันทึกไว้เป็บประวัติ กล่าวถึงบุคคลสำคัญว่า เขาคนนั้นได้ทำอะไรเพื่ออารยธรรมแห่งนี้บ้าง รวมทั้งชนพื้นเมืองเองที่ได้สืบสร้างฐานะ ความเป็นอยู่ ก็ย่อมมีผู้เขียนบทกวี หรือ บทความไว้เป็นลายลักษณ์ต่างๆ ซึ่งมันทำให้เห็นต่อรุ่นสู่รุ่น แล้วจึกเกิดการเรียนรู้ต่างๆจากอดีตว่าความเป็นมานั้นเป็นอย่างไร
เครื่องมือโบราณที่ทันสมัย
จากที่ได้ศึกษามาบ้างพอสมควร จากความคิดของผมนั้น มันมีเรื่องแปลกของการบอกเล่าจากสถานที่โบราณ อารยธรรม ความเชื่อ ที่สอดคล้องกับท้องฟ้า ซึ่งความเชื่อนี้บางครั้งอาจจะเป็นความเชื่อที่ดีงาม หรือไม่ก็อาจจะเป็นความเชื่อที่ความคิดสำหรับเรานั้นไม่อยากจะพูดถึงเพราะมันเป็นสิ่งที่ผิด...ดังนั้นเครื่องมือโบราณในสมัยนั้น มนุษย์สามารถรู้เทคโนโลยีแบบนี้ได้อย่างไร เมื่อย้อนรอยไปสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีเทคโนโลยีทางการทหาร แล้วเมื่อสงครามจบลง มนุษย์เราก็ได้เทคโนโลยีนั้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งความคิดของมนุษย์สามารถทำให้มันเป็นจริงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในยุคปัจจุบันนี้ แล้วบางที ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนรู้กันอยู่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่มาจากในโลกเรา ซึ่งภูมิปัญญา ที่ถ่ายทอดมานั้นคนสมัยก่อนเรียนรู้เรื่องดวงดาวแม่นยำมาก แล้วตั้งตำแหน่งได้อย่างถูกต้องตามเลขาคณิต และ บวกกับความเชื่อที่อยู่บนท้องฟ้า ซึ่งบางที เราเองอาจเป็นหนึ่งใน Galaxy ที่เป็นมนุษย์อีกเผ่าพันธุ์หนึ่ง และ เทคโนโลยีต่างๆ ที่ได้มาทั้งหมดนั้นเกิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เอามาจากอารยธรรมโบราณตามคําภีร์โบราณและฝาผนังที่ได้บอกเรื่องราวในอดีต ซึ่งมันก็สอดคล้องกับปัจจุบันอย่างมากครับ
ทั้งนี้เองจึงได้มองย้อนรอยอดีตที่ผ่านมาของมนุษย์เรา ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร...สิ่งที่อยู่ในโลกใบนี้มันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอยู่เสมอแล้วก็ถึงจุดจบของความรุ่งเรื่องโดยกฏของธรรมชาติ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะทำอะไร ไม่ว่าเราจะคิดอะไร มันเป็นสิ่งที่หลอกลวงมาแต่แรกแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น