Lifestyle [กาลเวลา] คืนที่ระบายความในใจ
[กาลเวลา] คืนที่ระบายความในใจ
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง...เพื่อนคนนี้ผมรู้จักมันตั้งแต่ ป.4 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 10 ปีแล้วที่ยังคุยกันอยู่เสมอ แต่มันก็เริ่มจางหายไปทุกๆวันเวลา....จากที่เคยเล่นเกมส์ หาความสนุกใส่ตัวเอง หาเป้าหมายในชีวิต...มันคงเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า...
เมื่อคืนผมได้มีเวลาคุยกับเพื่อนคนนี้(แต่ยังไม่ขอเล่าตอนที่คุย)...อ๋อลืมบอกไปว่าเพื่อนผมชื่อ "ค็อป" มันเป็นคนที่มุ่งมั่นชอบการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ จนบางทีผมก็ประหลาดใจไปว่า สมัยเด็กทำไมมันถึงชอบการประดิษฐ์นัก...แต่แล้วมันก็หยุดไปโดยทางด้านสังคม และ ทางบ้านที่เป็นอยู่...ช่วง ม.ต้น ถึงม.ปลาย ก็มีแวดวงของเด็กที่ชอบเล่นเกมส์กัน ส่วนตัวแล้วผมก็ชอบด้วย มันเป็นช่วงที่สนุกที่สุดในชีวิตกับเพื่อนๆ จนกระทั้งเวลาผ่านไปเพื่อนทุกๆคนก็เริ่มมีหลักมีแหล่งของตัวเองคือ หน้าที่การงานต่างๆซึ่ง ผม และ เพื่อนของผมเอง ก็ยังคงเล่นเกมส์ด้วยกันอยู่....จนกระทั้งได้มีเวลาที่คุยเรื่องชีวิตกัน
เรื่องก็มีอยู่ว่า ในแวดวงสังคม และแรงบีบกดดันของทางบ้านที่ต้องการให้ลูกนั้นเน้นเรียนมากจนเกินไป...จึงทำให้เพื่อนผมตกอยู่ในปัญหาที่เรียกว่า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จากที่ค็อบเคยใฝ่ฝันเป็นนักประดิษฐ์ก็ต้องมาทำในสิ่งที่ตัวเองนั้นไม่ชอบเอาเสียเลย ซึ่งผมเป็นเพื่อนก็เข้าใจมันดีที่สุด...และความฝันของมันก็ได้พังทลายไปกับตาตั้งแต่เรียน ม.ต้น จนถึงปัจจุบันนี้จะจบปริญญาแล้ว..มันยังเสียดายความเป็นตัวตนของมันอยู่....จากนั้นมาเกมส์ก็คือที่พึ่งของเพื่อนผมไปแล้ว...ชีวิตไร้จุดหมายเพราะความฝันที่ไม่อาจหวนคืนมา ซึ่งผมเองเห็นภาพเลยว่าชีวิตเพื่อนผมถูกกฏดันทุกๆด้าน แต่ผมเองที่คบกับมันมาเป็น 10 ปีหรือมากกว่านั้น รู้ได้เลยว่า มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอมา...อย่างไร..ซักวันหนึ่งนักประดิษฐ์ของนาย มันจะกลับมาให้สุดยอดอีกครั้ง...
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง...เพื่อนคนนี้ผมรู้จักมันตั้งแต่ ป.4 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 10 ปีแล้วที่ยังคุยกันอยู่เสมอ แต่มันก็เริ่มจางหายไปทุกๆวันเวลา....จากที่เคยเล่นเกมส์ หาความสนุกใส่ตัวเอง หาเป้าหมายในชีวิต...มันคงเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า...
เมื่อคืนผมได้มีเวลาคุยกับเพื่อนคนนี้(แต่ยังไม่ขอเล่าตอนที่คุย)...อ๋อลืมบอกไปว่าเพื่อนผมชื่อ "ค็อป" มันเป็นคนที่มุ่งมั่นชอบการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ จนบางทีผมก็ประหลาดใจไปว่า สมัยเด็กทำไมมันถึงชอบการประดิษฐ์นัก...แต่แล้วมันก็หยุดไปโดยทางด้านสังคม และ ทางบ้านที่เป็นอยู่...ช่วง ม.ต้น ถึงม.ปลาย ก็มีแวดวงของเด็กที่ชอบเล่นเกมส์กัน ส่วนตัวแล้วผมก็ชอบด้วย มันเป็นช่วงที่สนุกที่สุดในชีวิตกับเพื่อนๆ จนกระทั้งเวลาผ่านไปเพื่อนทุกๆคนก็เริ่มมีหลักมีแหล่งของตัวเองคือ หน้าที่การงานต่างๆซึ่ง ผม และ เพื่อนของผมเอง ก็ยังคงเล่นเกมส์ด้วยกันอยู่....จนกระทั้งได้มีเวลาที่คุยเรื่องชีวิตกัน
เรื่องก็มีอยู่ว่า ในแวดวงสังคม และแรงบีบกดดันของทางบ้านที่ต้องการให้ลูกนั้นเน้นเรียนมากจนเกินไป...จึงทำให้เพื่อนผมตกอยู่ในปัญหาที่เรียกว่า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จากที่ค็อบเคยใฝ่ฝันเป็นนักประดิษฐ์ก็ต้องมาทำในสิ่งที่ตัวเองนั้นไม่ชอบเอาเสียเลย ซึ่งผมเป็นเพื่อนก็เข้าใจมันดีที่สุด...และความฝันของมันก็ได้พังทลายไปกับตาตั้งแต่เรียน ม.ต้น จนถึงปัจจุบันนี้จะจบปริญญาแล้ว..มันยังเสียดายความเป็นตัวตนของมันอยู่....จากนั้นมาเกมส์ก็คือที่พึ่งของเพื่อนผมไปแล้ว...ชีวิตไร้จุดหมายเพราะความฝันที่ไม่อาจหวนคืนมา ซึ่งผมเองเห็นภาพเลยว่าชีวิตเพื่อนผมถูกกฏดันทุกๆด้าน แต่ผมเองที่คบกับมันมาเป็น 10 ปีหรือมากกว่านั้น รู้ได้เลยว่า มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอมา...อย่างไร..ซักวันหนึ่งนักประดิษฐ์ของนาย มันจะกลับมาให้สุดยอดอีกครั้ง...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น