Lifestyle กับ โลกยุคใหม่ ยุคเอาตัวรอด
โลกยุคใหม่ ยุคเอาตัวรอด
อนาคตโลกยุคใหม่ จะเกี่ยวเนื่องมาจาก ความเป็นอยู่ของมนุษย์ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อเงินตรา ปากท้อง ชีวิตสวยหรู และจิตใจเริ่มจะเสื่อมลงตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่เรียกว่าความทะยานอยากได้ อยากมี อยากเป็นซึ่งอำนาจ มันเลยทำให้มนุษย์หน้ามืดตามัวขึ้นทุกๆวัน...โลกยุคใหม่นี้ ผมต้องตั้งชื่อว่า ยุคเอาตัวรอด
บนโลกใบนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับคนอ่อนแอ เนื่องด้วยความอยากได้นั้นเองที่ทำให้ผมต้องเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเตือนสำหรับผู้อ่าน ผมเองก็มีความอยากอยู่ และไม่รู้ว่ากาลเวลามันทำให้คนนั้นเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมแบบโลกาภิวัตน์ มนุษย์บางทีความเป็นอยู่ก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด สิ่งที่ทำคือตัวเองทั้งนั้น
คนดีและคนไม่ดี
ส่วนใหญ่แล้วถ้าหากเป็นชาติก่อนๆ เราเคยประพฤติอะไรไว้ ก็จะมีนิสัยเดิมแต่ชาติก่อนๆติดมาด้วย หากมาชาตินี้ถ้าเกิดมาแล้วแต่อยู่ในสภาพการเลี้ยงดูที่ดีก็จะกลายเป็นคนดีได้ แต่ถ้าหากเลี้ยงดูในที่ที่ไม่ดีก็จะเป็นคนชั่วได้....สรุปคือ..อยู่ที่การเลี้ยงดูแต่กำเนิด
แนวคิดโลกยุคใหม่
เทคโนโลยีก้าวกระโดดมาก ความเป็นมนุษย์ก็จะยิ่งน้อยลง นั้นคือการดูสื่อที่เป็นเป็นสาระประโยชน์ โลกยุคใหม่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถตามตัวได้เจอเพราะทุกอย่างเชื่อมต่อกันหมด.....มนุษย์ก็มีจำนวนประชากรมากขึ้น...งาน อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่ และยา จะต้องการมาก สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในสมัยนี้คือว่าเป็นอยู่ สุขสบายของแต่ละครอบครัว นี่จึงเป็นเหตุ..ที่ทำให้มนุษย์เริ่มที่จะมีให้มากเท่าที่ตัวเองต้องการ มากในที่นี้คือเงินตรา....จนกระทั้งถ้าถึงจุดๆหนึ่งแล้วเงินเป็นเพียงเศษกระดาษที่ไม่สามารถแลกซื้อได้....จะเกิดโกลาหลครั้งใหญ่นั้นคือ ชิงความเป็นใหญ่นั้นเอง
การเอาตัวรอดในโลกยุคใหม่
คนที่แข็งแกร่งในทางด้านการปกครอง จะอยู่รอด แต่ก็ต้องเจอปัญหาของการแย่งชิงอำนาจกันอยู่เรื่อยไป นั้นคือสงคราม คนที่อยู่รอดได้นั้นต้องมีความเข้าใจ และ เข็มแข็งมาก เพื่อที่จะเอาตัวเองให้รอด ผลสุดท้ายความทะเยอทะยานของผู้ที่ต้องการความเป็นใหญ่ จะแบ่งเป็น 2 ขั้วสุดโต่งนั้นคือ
1.ต่อสู้เพื่ออิสระภาพ ไม่มีการกดขี่ ปลดปล่อย (ฝ่ายดี)
2.ต่อสู้เพื่อให้เป็นไปตามอำนาจ คงเดิม(ฝ่ายไม่ดี)
ซึ่งกว่าจะถึงจุดการต่อสู้นี้ได้นั้น กว่าจะเป็นอย่าง 2 ขั้วนี้ได้ แต่ละคนก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวกันพอสมควร
สรุป
ถ้าหากยุคใดมีความเข้มแข็งมากกว่า ยุคนั้นก็จะต้องครองกันไปสงครามความแค้นก็เป็นอยู่เช่นนี้ ไม่มีทางที่จะแก้ได้เลย จนในที่สุดเพื่อให้ความเป็นมนุษย์นั้นกลับมาจำเป็นต้องมีผู้นำ ผู้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว คนนั้นต้องมาแก้ไขสถานการณ์ของสงครามนี้ นั้นคือ....ผู้กอบกู้โลก นั้นเอง
อนาคตโลกยุคใหม่ จะเกี่ยวเนื่องมาจาก ความเป็นอยู่ของมนุษย์ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อเงินตรา ปากท้อง ชีวิตสวยหรู และจิตใจเริ่มจะเสื่อมลงตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่เรียกว่าความทะยานอยากได้ อยากมี อยากเป็นซึ่งอำนาจ มันเลยทำให้มนุษย์หน้ามืดตามัวขึ้นทุกๆวัน...โลกยุคใหม่นี้ ผมต้องตั้งชื่อว่า ยุคเอาตัวรอด
บนโลกใบนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับคนอ่อนแอ เนื่องด้วยความอยากได้นั้นเองที่ทำให้ผมต้องเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเตือนสำหรับผู้อ่าน ผมเองก็มีความอยากอยู่ และไม่รู้ว่ากาลเวลามันทำให้คนนั้นเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมแบบโลกาภิวัตน์ มนุษย์บางทีความเป็นอยู่ก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด สิ่งที่ทำคือตัวเองทั้งนั้น
คนดีและคนไม่ดี
ส่วนใหญ่แล้วถ้าหากเป็นชาติก่อนๆ เราเคยประพฤติอะไรไว้ ก็จะมีนิสัยเดิมแต่ชาติก่อนๆติดมาด้วย หากมาชาตินี้ถ้าเกิดมาแล้วแต่อยู่ในสภาพการเลี้ยงดูที่ดีก็จะกลายเป็นคนดีได้ แต่ถ้าหากเลี้ยงดูในที่ที่ไม่ดีก็จะเป็นคนชั่วได้....สรุปคือ..อยู่ที่การเลี้ยงดูแต่กำเนิด
แนวคิดโลกยุคใหม่
เทคโนโลยีก้าวกระโดดมาก ความเป็นมนุษย์ก็จะยิ่งน้อยลง นั้นคือการดูสื่อที่เป็นเป็นสาระประโยชน์ โลกยุคใหม่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถตามตัวได้เจอเพราะทุกอย่างเชื่อมต่อกันหมด.....มนุษย์ก็มีจำนวนประชากรมากขึ้น...งาน อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่ และยา จะต้องการมาก สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในสมัยนี้คือว่าเป็นอยู่ สุขสบายของแต่ละครอบครัว นี่จึงเป็นเหตุ..ที่ทำให้มนุษย์เริ่มที่จะมีให้มากเท่าที่ตัวเองต้องการ มากในที่นี้คือเงินตรา....จนกระทั้งถ้าถึงจุดๆหนึ่งแล้วเงินเป็นเพียงเศษกระดาษที่ไม่สามารถแลกซื้อได้....จะเกิดโกลาหลครั้งใหญ่นั้นคือ ชิงความเป็นใหญ่นั้นเอง
การเอาตัวรอดในโลกยุคใหม่
คนที่แข็งแกร่งในทางด้านการปกครอง จะอยู่รอด แต่ก็ต้องเจอปัญหาของการแย่งชิงอำนาจกันอยู่เรื่อยไป นั้นคือสงคราม คนที่อยู่รอดได้นั้นต้องมีความเข้าใจ และ เข็มแข็งมาก เพื่อที่จะเอาตัวเองให้รอด ผลสุดท้ายความทะเยอทะยานของผู้ที่ต้องการความเป็นใหญ่ จะแบ่งเป็น 2 ขั้วสุดโต่งนั้นคือ
1.ต่อสู้เพื่ออิสระภาพ ไม่มีการกดขี่ ปลดปล่อย (ฝ่ายดี)
2.ต่อสู้เพื่อให้เป็นไปตามอำนาจ คงเดิม(ฝ่ายไม่ดี)
ซึ่งกว่าจะถึงจุดการต่อสู้นี้ได้นั้น กว่าจะเป็นอย่าง 2 ขั้วนี้ได้ แต่ละคนก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวกันพอสมควร
สรุป
ถ้าหากยุคใดมีความเข้มแข็งมากกว่า ยุคนั้นก็จะต้องครองกันไปสงครามความแค้นก็เป็นอยู่เช่นนี้ ไม่มีทางที่จะแก้ได้เลย จนในที่สุดเพื่อให้ความเป็นมนุษย์นั้นกลับมาจำเป็นต้องมีผู้นำ ผู้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว คนนั้นต้องมาแก้ไขสถานการณ์ของสงครามนี้ นั้นคือ....ผู้กอบกู้โลก นั้นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น